ภัยเงียบ!โหมดหมุนเวียนอากาศขณะขับรถทางไกล

ในการขับขี่ทั้งในเมืองและทางไกล ผู้ขับขี่ส่วนใหญ่มักกดปุ่ม 'อากาศหมุนเวียน' เพื่อป้องกันกลิ่นไม่พึงประสงค์จากภายนอก แต่คุณรู้หรือไม่ว่า การกดปุ่มนี้ค้างไว้ตลอดทางอาจกลายเป็นภัยเงียบที่นำมาซึ่งอันตรายได้? วันนี้ AS AUTO มีคำตอบว่าทำไมโหมดหมุนเวียนอากาศจึงเป็นอันตรายเมื่อขับทางไกล

มาทำความเข้าใจหลักการทำงานของระบบปรับอากาศในรถยนต์ ซึ่งมี 2 โหมดสำคัญ ดังนี้:

1.โหมดอากาศหมุนเวียน (Recirculation Mode): ระบบจะดึง อากาศภายในห้องโดยสาร มาหมุนเวียนซ้ำเพื่อทำความเย็นอย่างรวดเร็ว เหมาะสำหรับใช้ช่วงแรกของการเปิดแอร์ หรือเมื่อขับผ่านบริเวณที่มีกลิ่น/ฝุ่นมาก
2.โหมดรับอากาศภายนอก (Fresh Air Mode): ระบบจะดึง อากาศบริสุทธิ์จากภายนอก เข้ามาในรถผ่านการกรอง เพื่อสร้างอากาศใหม่หมุนเวียนในห้องโดยสาร"

ภัยเงียบ! เมื่อกดปุ่มอากาศหมุนวนค้างไว้เป็นเวลานาน
เมื่อคุณกดปุ่มอากาศหมุนเวียนค้างไว้เป็นเวลานาน โดยเฉพาะเมื่อมีผู้โดยสารในรถหลายคน ระบบจะนำอากาศเดิมที่พวกเราหายใจออกมาวนกลับไปทำความเย็นซ้ำแล้วซ้ำเล่าวนอยู่ภายในรถ

สิ่งที่เกิดขึ้นคือ

• ระดับออกซิเจน (O2​) ลดลง: เพราะไม่มีการนำอากาศใหม่จากภายนอกเข้ามาเติม

• ระดับคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2​) สูงขึ้น: ซึ่งเป็นก๊าซที่เราหายใจออกมา จะสะสมอยู่ในห้องโดยสารมากขึ้นเรื่อยๆ

• ง่วงซึมและอ่อนเพลีย

• ปวดศีรษะ มึนงง

• สมาธิในการขับขี่ลดลง

• การตัดสินใจช้าลง

1. ช่วงแรกของการเดินทาง: สามารถกดปุ่ม "อากาศหมุนเวียน" ได้ประมาณ 5-10 นาที เพื่อเร่งให้ความเย็นกระจายทั่วห้องโดยสารได้เร็วขึ้น
2. ระหว่างเดินทางไกล: หลังจากแอร์เริ่มเย็นแล้ว ควรกดปิดปุ่มอากาศหมุนเวียน เพื่อเปลี่ยนไปใช้โหมด "รับอากาศภายนอก" เป็นหลัก วิธีนี้จะช่วยรักษาสมดุลของออกซิเจนและป้องกันการสะสมของคาร์บอนไดออกไซด์ ทำให้ร่างกายสดชื่นและตื่นตัวอยู่เสมอ
3. ใช้เมื่อจำเป็นเท่านั้น: เปิดใช้โหมดอากาศหมุนเวียนเป็นครั้งคราว เฉพาะเมื่อขับผ่านบริเวณที่มีมลภาวะสูง เช่น เขตก่อสร้าง, โรงงาน, หรือตามหลังรถที่ควันดำ และเมื่อผ่านพ้นบริเวณนั้นแล้ว ให้รีบสลับกลับไปใช้โหมดรับอากาศภายนอกทันที
4. เพิ่มเติม: ทุกๆ 1-2 ชั่วโมง ควรลดกระจกลงเล็กน้อยประมาณ 1-2 นาที เพื่อให้อากาศถ่ายเทได้ดียิ่งขึ้น